ความก้าวหน้าเรื่องผลกระทบทางสังคมและอื่น ๆ

          ที่ Teva เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาชีวิตของผู้ป่วยของเราและเราไม่ได้หยุดแค่ที่ยา แต่คือการสร้างโลกที่ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้น รายงานผลกระทบทางสังคมฉบับล่าสุดของเรา ประจำปี 2018 มีรายละเอียดเกี่ยวกับความพยายามและความก้าวหน้าของเราในการสร้างผลกระทบในเชิงบวก เรานั่งคุยกับ Amalia Adler-Waxman รองประธาน ด้านผลกระทบและความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน และวิธีที่ Teva จะสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น

กลยุทธ์ด้านผลกระทบทางสังคมของ Teva ถูกสร้างขึ้นบนสองเสาหลัก นั่นคือการสนับสนุนชุมชนที่มีสุขภาพดีและกำหนดทิศทางธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ เรามุ่งเน้นที่ชุมชมที่มีสุขภาพดี ซึ่งหมายถึง การเข้าถึงยาที่เพิ่มขึ้น การพัฒนาการรักษาพิเศษ การสนับสนุนผู้ป่วยผ่านเส้นทางการรักษาสุขภาพของผู้ป่วยเอง และจัดการปัญหาสุขภาพระดับสากล ความพยายามของเราที่จะนำพาธุรกิจด้วยความรับผิดชอบนั้นรวมถึง การทำนุบำรุงวัฒนธรรมอันเข้มแข็งในการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ หลักจริยธรรม และความโปร่งใส ส่งเสริมพนักงานของเรา ปกป้องสิ่งแวดล้อม นับนุนความปลอดภัยของผู้ป่วย และการรักษาไว้ซึ่งระบบซัพพลายเชนที่มีความรับผิดชอบ 

Q. ความมุ่งมั่นนี้มีพัฒนาการไปอย่างไรบ้างตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้

A. ความมุ่งมั่นของเราที่จะทำเพื่อผู้ป่วยและการพัฒนาสุขภาพคือหัวใจหลักของ Teva มานับตั้งแต่เราได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 118 ปีก่อน การเดินทางของเราไปสู่แนวทางปัจจุบันที่เราใช้สร้างผลกระทบต่อสังคมเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2016 ซึ่งเราได้กำหนดขอบเขตที่เป็นเป้าหมาย ในปี 2017 เราได้มีการทบทวนความต้องการทางด้านสุขภาพและการพัฒนาทั่วโลก จากจุดนี้เอง ที่เราได้กำหนดเสาหลักในด้านผลกระทบทางสังคม ให้สอดคล้องกับกิจกรรมและแนวทางการปฏิบัติที่จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน รวมทั้งวิสัยทัศน์ของเราเพื่อสร้างผลกระทบที่ยั่งยืน 
ในปีเดียวกันนี้ เราได้พูดคุยกับผู้นำในงานด้านสุขภาพและตัวผู้ป่วยเอง และระบุปัญหาสุขภาพที่กำลังกดดันโลกซึ่งยังไม่เป็นที่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง นั่นก็คือสภาวะความเจ็บป่วยเรื้อรัง (MCC) ซึ่งหมายถึงผู้ที่มีสภาวะความเจ็บป่วยเรื้อรังตั้งแต่สองโรคขึ้นไป MCC มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจของเราอย่างแยกไม่ออก เนื่องจากเราเป็นผู้ผลิตยาหลายชนิดเพื่อรักษาสภาวะความเจ็บป่วยเรื้อรังที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อ (NCDs) เราตัดสินใจจะพุ่งเป้าไปที่ MCC ในแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับผลกระทบทางสังคมของเรา โดยอาศัยความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เราได้ช่วยสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของ MCC และทำงานร่วมกับผู้นำในธุรกิจการดูแลสุขภาพ และองค์กรที่ทำงานด้านผู้ป่วยเพื่อกำหนดวิธีการแก้ปัญหา 

Q มีอะไรใหม่และน่าสนใจในรายงานของปีนี้? 

A. มีมากมายที่เราอยากจะแบ่งปัน แต่ยากที่จะเลือก การปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับและจริยธรรมเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ ปีที่แล้ว เราได้มีการฝึกอบรมพนักงานมากกว่า 16,500 คน ในหัวข้อเกี่ยวกับพฤติกรรมที่มีจริยธรรม 10 รายการ พร้อมกับอัตราการสำเร็จที่สูงถึง 98% การทำงานเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงในปี 2018 ของเรามีความหลากหลายและแพร่หลายออกไป ยาสามัญของมากกว่า 900 รายการและยารักษาโรคเฉพาะทาง 35 รายการของเราได้รับการอนุมัติแล้ว เรามีความภาคภูมิใจที่ได้บริจาคยามูลค่ามากกว่า 380 ล้านเหรียญให้กับผู้ป่วยทั่วโลก และจัดส่งยาปฏิชีวนะ 220,000 ชุด วิตามินบี 6 จำนวน 1.5 ล้านชุดให้กับผู้ป่วยวัณโรค เรายังได้พัฒนาสถานะในการเข้าถึงยารักษาโรค ที่ส่งเสริมความมุ่งมั่นของเราในการเข้าถึงผู้ป่วยมากขึ้นด้วยยาที่มีคุณภาพของเรา ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและความโปร่งใสของเราได้รับการยอมรับจากองค์กรที่ไม่มุ่งแสวงหาผลกำไรด้านสิ่งแวดล้อมชั้นนำ Teva ได้รับคะแนนระดับ A- จาก CDP จากการเปิดเผยข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเราจะยังคงเดินหน้าลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป ตัวอย่างเช่น เราลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 23% ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา

Q สิ่งที่ภาคภูมิใจที่สุดในปี 2018 คือ?

A. การเป็นพันธมิตรและนำพาบรรดาผู้นำในธุรกิจด้านสุขภาพ และองค์กรที่ทำงานด้านผู้ป่วย รัฐบาล อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพและไอทีเพื่อหารือเกี่ยวกับ MCC นี่คือประเด็นที่ฉันรู้สึกอย่างแท้จริงว่าเรากำลังมีความก้าวหน้าในเรื่องที่พูดคุยกัน เราเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม NCD Care Continuumในระหว่างการประชุมสามัญของสหประชาชาติในเดือนกันยายน โดยร่วมมือกับ Intel และองค์กรพันธมิตรเพื่อผู้ป่วยนานาชาติหลายแห่ง ซึ่งที่นี่ผู้นำในหลายภาคส่วนกว่า 80 คนได้มารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีที่เราจะพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรค MCC ให้ดียิ่งขึ้น และขณะนี้เราพยายามที่จะรักษากระแสให้อยู่อย่างนี้ไปตลอด ในเดือนพฤษภาคมของปีนี้ เราได้เชิญชวนผู้เชี่ยวชาญด้านการสาธารณสุขให้มาร่วมหารือเกี่ยวกับเครื่องมือและทรัพยากรสำหรับผู้ป่วยโรค MCC ที่การประชุมสมัชชานามัยโลกครั้งที่ 72 ซึ่งจะจัดขึ้นในกรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เราหวังการประชุมนี้ว่าจะช่วยสร้างความเข้าใจในหัวข้อนี้เพิ่มมาขึ้นในปี 2019

Q. สิ่งที่คุณตื่นเต้นเกี่ยวกับอนาคต?

A.ฉันตื่นเต้นสำหรับ Teva ที่จะยังคงให้บริการผู้ป่วยโดยการพัฒนาตัวเลือกการรักษาใหม่ ๆ การเข้าถึงผู้ป่วยมากขึ้นด้วยยาของเรา การสนับสนุนผู้ป่วยบนเส้นทางสุขภาพของพวกเขา และการส่งเสริมสุขภาพองค์รวมของผู้ป่วยยิ่งไปกว่านั้นฉันรู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับบทบาท Teva ในการมีส่วนร่วมจัดการปัญหาสุขภาพในระดับโลกผ่านความร่วมมือที่มีเอกลักษณ์ เรากำลังจะประกาศเป้าหมายสิ่งแวดล้อมใหม่ในเดือนหน้าที่กำลังจะมาถึง ฉันกำลังมองไปข้างหน้าเพื่อแบ่งปันสิ่งเหล่านี้ และความพยายามของเราที่จะขับเคลื่อนในเรื่องนี้ให้มีความก้าวหน้า เพราะเรารู้ว่าโลกที่มีสุขภาพดีเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพของผู้ป่วยและชุมชนของเรา

รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวปฏิบัติเกี่ยวกับผลกระทบทางสังคมของ Teva โปรดไปที่ รายงานผลกระทบทางสังคม 2018